จบกันไปแล้วสำหรับฟุตบอลโตโยต้า ไทยลีก 2019 เลกแรก ซึ่งนอกจากที่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กลับมาทวงอันดับ 1 ของตารางคะแนนก่อนจบเลก เรายังได้เห็นทีมอย่าง ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่ออกสตาร์ทไม่สวย แต่ก็นิ่งขึ้นเรื่อยๆ จนมายึดอันดับ 2 ตามหลังจ่าฝูง 4 แต้ม เท่ากับ “สิงห์ท่าเรือ” ที่ตกเป็นที่ 3 และ สมุทรปราการ ซิตี้ ที่โดนเซ้งมาอยู่เมืองปากน้ำ ก็ดันดีวันดีคืนขึ้นมาเป็นทีมแถวหน้าของลีกเฉยเลย
โดยสัญญาณการซื้อขายผู้เล่นในตลาดเลก 2 ก็คึกคักตั้งแต่ยังไม่ทันจบเลกแรก เมื่อ “มาดามแป้ง” เริ่มเปิดตัว ธนบูรณ์ เกษารัตน์ มิดฟิลด์ทีมชาติไทยที่ซื้อจาก บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ทีแรกลือว่า 30 ล้านเป็นอย่างน้อย คล้อยหลังมาไม่นานว่ากันว่าถึง 44 ล้านบาท ราคานี้อาจจะสูงมาก แต่หากปาดหน้า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์ไทยลีก หรือได้แชมป์บอลถ้วยมาบ้างคงไม่แพง
ส่วนแชมป์เก่า “ปราสาทสายฟ้า” ไม่น้อยหน้าเขย่าตลาดด้วยการคว้า นาเซอร์ บาราซิต กองหน้าวัย 29 ปี จากอัลจาซีร่า (ยูเออี) มาร่วมทัพด้วยมูลค่า 160 ล้านบาท ซึ่งโปรไฟล์ส่วนตัวในอาชีพพ่อค้าแข้งถือว่าสุดยอดมาก เนื่องจากผ่านมาเล่นกับสโมสรดังอาทิ อาร์เซนอล, ออสเตรีย เวียนนา, โมนาโก, อูเทร็คท์ แถมยังเคยติดทีมชาติฮอลแลนด์ ชุดเยาวชนตั้งแต่ ยู 15, ยู 17, ยู 19, ยู 20 และ ยู 21 โดยมีเพื่อนร่วมรุ่นที่แฟนบอลรู้จักกันดีอย่าง ดาลีย์ บลินด์, เควิน สตรูทมัน, เลรอย เฟอร์, จอร์จินิโอ ไวนัลดุม และ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์
แข้งใหม่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อีกคนคือ เควิน อินเกรโซ่ กองกลาง วัย 26 ปี ลูกครึ่งฟิลิปปินส์–เยอรมัน ดีกรีเคยฝึกฟุตบอลกับ ซังค์ เพาลี และฮัมบูร์ก ทีมในบุนเดสลีก้า ก่อนจะได้รับโอดาสลงเล่นให้กับ ดรอชเทอร์เซ่น / แอสเซล ทีมจากลีก 4 เยอรมัน การมาของดาวเตะโควต้าอาเซียรายนี้ ทำเอา เลือง ซวน เชือง มิดฟิลด์ดาวทองหมดอนาคตต้องกลับไปหากินที่าบ้านเกิดเลย
ด้าน สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ได้ตัว ไคเก้ เวนานซิโอ้ เลมีส กองหน้าชาวบราซิล จาก เดปอร์ติโบ้ อาเวส ลีกสูงสุดของโปรตุเกส ก็น่าสนใจไม่น้อย หรือ ชลบุรี เอฟซี ที่ได้ “โค้ชเตี้ย” มาปลุกศรัทธาจากแฟนบอล ที่แม้ไม่มีเงิน แต่ก็มีบารมีพอดูดดาวดังในอดีตอย่าง ดัสกร ทองเหลา, ธีรเทพ วิโนทัย, มงคล นามนวด, วิทยา หมัดหลำ มาประคองแข้งดาวรุ่งให้เกิดความนิ่งยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังได้ แฮร์ลิสัน ไคออน กองหน้าจาก พีที ประจวบ กับ จูเนียร์ โลเปซ กองหลังบราซิล มาเสริมความเหนียวแน่นในเกมรับ
แต่ที่เหมือนว่าจะถูกจับตามองมากที่สุดน่าจะเป็น เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ทีมที่เปลี่ยนโค้ชจนพังอันดับรูดไปเป็นบ๊วยของลีก พอได้ กาม่า มารับงาน เจ้าตัวเหมือนจะพอรู้ว่าถ้าใช้นักเตะชุดเดิมเป็นหลักคงไม่เวิร์กซะแล้ว เลยต้องจัดหนักในตลาดผู้เล่นเลก 2 ด้วยการคว้า วันแดร์เลย์ ดิอาส มารินโญ กองหน้าบราซิล จากทีม อาเวส ในลีกโปรตุเกส มาเสริมความคมในแดนหน้าที่ต้องพึ่ง เฮแบร์ตี้ อยู่คนเดียว ที่เหลือฝากผีฝากไข้ยากเหลือเกิน
ขณะที่แบ็กซ้าย พอไร้ “อุ้ม” ธีราทร บุญมาทัน กลายเป็นไม่ดีทั้งรุกและรับเสริมทัพเที่ยวนี้เลยได้ตัว ไดสุเกะ ซาโตะ นักเตะลูกครึ่งฟิลิปปินส์-ญี่ปุ่นในโควต้าอาเซียน โดยเคยเป็นเด็กฝึกของ อูราวะ เรด ไดมอนส์ ยอดทีมเจลีกมาแล้ว และปิดท้ายเป็น บรูโน่ กัลโล่ กองกลางชาวบราซิล ที่อิมพอร์ท มาจากลีกโปรตุเกส อีกราย นั่งดูสไตล์การเล่นแล้ว ชัดเจนว่าต้องการตัวตัดบอล-เก็บบอลในแดนกลาง เล่นคล้าย ฟาบินโญ่ ของ ลิเวอร์พูล ไม่เร็ว แต่ออกบอลชัวร์มาก ซึ่งหากว่าเล่นดีจริงดั่งข้อมูลที่ได้รับมา รับรองว่าแผงกลางอย่าง สารัช อยู่เย็น , วัฒนา พลายนุ่ม หรือ ชาริล ชัปปุยส์ โดนเบียดไปนั่งสำรองแน่